** แอนฟิลด์ เตรียมปรับโฉมด้วยงบประมาณ 60 ล้านปอนด์ **
- การต่อเติมอัฒจันทร์ แอนฟิลด์ โร้ด อีก 7,000 ที่นั่ง อันจะทำให้มีความจุทะลุหลัก 61,000 ที่นั่งตามเป้าหมาย โดยได้รับไฟเขียวจากสภาเมืองลิเวอร์พูลเรียบร้อยแล้ว
- โครงการดังกล่าวได้รับการคาดหมายว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงฤดูร้อนปี 2023 โดย แอนดี้ ฮิวจ์ส กรรมการผู้จัดการสโมสรลิเวอร์พูลเผยว่า
"นี่คือหลักไมล์ขนาดใหญ่ในการเดินทางของเราเพื่อที่จะนำพาแฟนบอลเข้ามายังแอนฟิลด์ให้ได้มากๆ ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก"
"เราชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่าการขยับขยายครั้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานศักยภาพของเราในการจัดการกับการวางแผนภูมิทัศน์ที่มีความซับซ้อนโดยประสบความสำเร็จ; ศักยภาพของเราในการที่จะได้รับความร่วมมือจากประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น; และศักยภาพของเราในการทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการนี้ใช้การได้ในแง่การเงิน"
"ในปีที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลยอย่างมากๆ เช่นนี้ เรากำลังแสวงหาความแน่นอนเพื่อที่จะเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกับโครงการนี้ และยังคงมีอีกหลายก้าวย่างด้วยกันที่เราต้องการเพื่อที่จะก้าวเดินหน้าต่อไปให้ถึง ณ จุดนั้น"
- ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนงาน "หงส์แดง" ยังได้รับอนุญาตให้ดำเนินการจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมสำคัญๆ ต่างๆ ได้ถึงปีละหกรายการด้วยกัน อาทิ อเมริกัน และแกลิก ฟุตบอล เป็นต้น ตลอดช่วงระยะเวลาห้าปี ณ สนามแห่งนี้
- แผนการปรับปรุงสนามครั้งสำคัญดังกล่าวจะถือเป็นหนที่สองแล้วสำหรับ แอนฟิลด์ นับตั้งแต่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (Fenway Sports Group) หรือ เอฟเอสจี (FSG) บริษัทกีฬาสัญชาติอเมริกันของ จอห์น เฮนรี่ นักธุรกิจและนักลงทุนคนดัง ก้าวเข้ามาครอบครองกิจการสโมสรเมื่อเดือนตุลาคม 2010
- การปรับโฉมครั้งแรกภายใต้การบริหารงานของ เอฟเอสจี เสร็จสิ้นลงในเดือนกันยายน 2016 ซึ่งเป็นการเพิ่มพูนความจุของอัฒจันทร์หลักหรือ เมน สแตนด์ ขึ้นไปเป็น 8,500 ที่นั่ง สิริรวมแล้วทั่วทั้งสนามมีความจุขยับขึ้นไปเป็น 54,074 ที่นั่ง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นราวๆ 100 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว
การเพิ่มเติมความจุให้พุ่งทะยานขึ้นไปทะลุหลัก 61,000 ที่นั่ง ยังจะส่งผลทำให้ แอนฟิลด์ กลายเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สามในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี โดยจะตามหลังแค่เพียง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่มีความจุ 75,653 และ 62,062 ที่นั่งตามลำดับเท่านั้น
ลิเวอร์พูลกำลังจะทดสอบการใช้งานที่นั่งราวเป็นการชั่วคราวที่สนามแอนฟิลด์ในฤดูกาลหน้าอันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทบทวนความปลอดภัยในสนามอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่ยากลำบากสำหรับสโมสรในการดำเนินการมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพราะถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนสำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิต 96 คนจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรม ฮิลส์โบโร่ ที่เกิดจากแฟนบอลเบียดเสียดกันบนอัฒจันทร์จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี 1989 ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่ ลิเวอร์พูล พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ได้มีการหารือร่วมกับตัวแทนฝ่ายต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา
- การตรวจสอบโดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยของสนามกีฬา (Sports Grounds Safety Authority) หรือ เอสจีเอสเอ (SGSA) เน้นย้ำว่าการยืนตลอดเวลาในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลบนอัฒจันทร์ ค็อป (สปิออน ค็อป) และ แอนฟิลด์ โร้ด ชั้นล่าง คือประเด็นที่มีความจำเป็นจะต้องบริหารจัดการเพื่อสร้างความมั่นใจให้จงได้ในแง่ความปลอดภัยสำหรับแฟนบอล
ลิเวอร์พูลวางแผนการบริหารจัดการการยืนชมตลอดเกมลูกหนังมานานหลายปีแล้ว แต่ภายหลังการตรวจสอบของ เอสจีเอสเอ ครั้งล่าสุด ถึงตอนนี้มีการแนะนำให้ติดตั้งราวรักษาความปลอดภัยบนอัฒจันทร์ ค็อป (1,800 ที่นั่ง) และ แอนฟิลด์ โร้ด (6,000 ที่นั่ง) ในชั้นล่างต่อไปได้แล้ว
สโมสรดังแห่งย่าน เมอร์ซี่ย์ไซด์ ได้เน้นย้ำว่า แอนฟิลด์ จะยังคงเป็นสนามฟุตบอลที่มีที่นั่งเต็มสนาม และพื้นที่ทดลองที่นั่งราวเพื่อความปลอดภัยแบบใหม่ (สามารถพับเก้าอี้เพื่อยืนได้) ไม่ใช่พื้นที่ "ยืนอย่างปลอดภัย"
"ความปลอดภัยของกองเชียร์ของเราเมื่อพวกเขาเข้ามายังแอนฟิลด์คือเป้าหมายลำดับแรกของเรา และเรามีพันธกรณีอย่างเต็มที่ที่จะทำงานร่วมกับ เอสจีเอสเอ ในการทดลองที่นั่งแบบใหม่เหล่านี้" ฮิวจ์ส กล่าว
"มันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องรับฟังเหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับนำเอาคำแนะนำของพวกเขามาใช้จัดการกับประเด็นความปลอดภัยในจุดนี้"
"เราจะดำเนินการตรวจสอบทบทวนในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ในเวลา 12 เดือนเมื่อจบฤดูกาลหน้าพอดีนั่นแหละ" ผู้บริหารคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ระบุ
#เกมละกู #LFC #ลิเวอร์พูล #พรีเมียร์ลีก #PremierLeague #พรีเมียร์ลีกอังกฤษ